รูบนหินเหล่านี้ คือหลักฐานของเครื่องมือเจาะในยุคโบราณ 1,450ปี ก่อนคริสตกาล(3,465 ปีก่อน)
ชาวอียิปต์ได้ทำผลงานที่น่าตื่นตาตื่นใจให้ประจักต์ต่อประวัติศาสตร์ของราชวงศ์อียิปต์ และชาวโลก แต่สิ่งที่พวกเขาจะยังไม่ได้ถูกอธิบายเป็นการปรากฏตัวของความผิดปกติบางอย่าง เช่น “หลุมเจาะ” ที่เราพบอยู่บนหินโรสแกรนิต ในสภาพที่สมบูรณ์ (รุปด้านล่าง) และที่หลายแห่งของโบราณสถาน
ในยุคปัจจุบันที่มีเทคโนโลยี เราใช้เครื่องคอริ่ง และอุปกรณ์งานคอริ่ง พวกระบอกคอริ่งที่มีส่วนผสมของเพชรที่สามารถตัดเจาะหิน คอนกรีต และเหล็กได้อย่างง่ายดาย แต่ชาวอียิปต์ไม่ได้ใช้เครื่องมือพวกนี้แน่นอน แต่ว่านักวิชาการบางทฤษฎีว่า ฟาโรห์มีการให้ช่างฝึกซ้อมหรือใช้ท่อทองแดงบรอนซ์และใช้ทรายเป็นตัวขัด ในกระบวนการเจาะด้วยการใช้แรงมือในการหมุนน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในยุคนั้น
ตัวอย่างรูเจาะที่น่ามหัศจรรย์นี้ ถูกพบที่ คาร์นัค และถูกค้นพบโดยสมาชิกของโรงเรียน Khemit ทัวร์
รูถูกเจาะเป็นขนาดใหญ่และตัดหินโรสแกรนิตออกไป แต่ถ้านี้ไม่ได้เป็นผลงานของราชวงศ์อียิปต์ และไม่ชัดเจนว่าเป็นชาวกรีก โรมันหรือคนกลุ่มอื่น แล้วมันเกิดขึ้นได้ยังไง?
ภาพซูมนี้แสดงให้เห็นว่า ที่ร่องผนังของการเจาะ นี้ ในความเป็นจริงบางกว่า ท่อกระบอกคอริ่ง ที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน สิ่งที่เรากำลังมองหาที่เป็นหลักฐาน ที่แสดงว่าวัฒนธรรมทางเทคโนโลยี ที่เหนือกว่าอยู่เป็นพัน ๆ ปีก่อนที่ชาวอียิปต์ และราชวงศ์พวกเขาใช้
ภาพข้างซ้าย แสดงให้คุณเห็นถึงรูเจาะ ที่มันทะลุนี้หินแกรนิตสีดำตั้งอยู่ที่ Abusir
รูแต่ละรู ถูกเจาะโดยการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับเครื่องมือที่ทันสมัยทำในปัจจุบัน ดังนั้น ในความเป็นจริงอาจมีเทคโนโลยีที่เหนือกว่ากับสิ่งที่เรามีวันนี้ แต่ได้หายสาปสูญไปพร้อมกับชาวอียิปต์ในยุคก่อนแล้วก็เป็นได้
และที่นี่เรามีตัวอย่างในเศวตศิลาที่ Abugurab ซึ่งเป็นหินนุ่มกว่าหินแกรนิตหินบะซอลหรือ diorite แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงการเจาะ แบบเดียวกันกับรูที่เห็นข้างต้น ถ้ามันทำขึ้นด้วยมือ(หมายถึงใช้สกัด) คงไม่ได้รูที่สวยงามและเป็นเลขาคณิตอย่างนี้
สิ่งที่คุณดูมาตลอดนี้เป็นตัวอย่างรูหินที่ถูกเจาะจากอียิปต์โบราณ ดูเหมือนรูที่ปรากฎบนหินนี้จะเป็นสัญญาณของเครื่องมือที่คนอียิปต์โบราณใช้เมื่อสมัยก่อน ซึ่งดูจากผลงานแล้วมันน่าทึ่งมาก ด้วยความที่ว่า หากจะทำแบบนี้(เจาะรูบนหินแข็ง)ในปัจจุบันต้องใช้เครื่องมือพิเศษ(เครื่องคอริ่ง) แถมยังต้องใช้พลังงานจากไฟฟ้าอีกตังหาก แล้วพวกเขาทำได้อย่างไร? ตามโบราณสถานในทั่วมุมโลกเราสามารถพบการเจาะหลุมบนหินบะซอล หินปูน และหินแกรนิต ที่มีความแม่นยำและเรียบเนียน(งานดีมาก) ราวกับว่าใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เรามาดูกันว่าเขาใช้วิธีการอะไร
คนอียิปต์ที่รับผิดชอบในงานโครงสร้างเหล่านี้(พวกช่าง) มีการสันนิฐานกันว่าน่าจะใช้เครื่องมือที่เรียบง่าย โดยใช้ปลายที่สาก มีคมขัด ติดไว้ที่ปลายท่อโลหะ(คล้ายๆกระบอกคอริ่งเลย) แล้วหมุนมันด้วยคันธนูโดยใช้แรงคน เพื่อให้กระบอกเจาะขัดลงไปนี่อาจจะเป็นข้อสันนิฐานที่เป็นไปได้ ? ภาพที่รู้จักกันครั้งแรกของ bowdrill อยู่ในหลุมฝังศพของราชวงศ์ที่ 5 ของ Ty ที่ Saqqara
หนังสือหลายเล่มและเว็บไซต์ต่างๆ มีการอธิบายถึงวิธีการต่างๆที่พวกช่างชาวอียิปต์ใช้ แต่เมื่อนำวิธีการของพวกเขามาใช้จริงจะพบว่าวิธีการที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นล้มเหลว หรือไม่ได้ผลเลยเมื่อนำมาปฎิบัติจริง นี่เป็นตัวอย่างทั่วไป เราจะพบภาพของหนึ่งในการฝึกซ้อมการใช้คันธนูเป็นเครื่องมือของชาวอียิปต์
ในอียิปต์จำนวนของ bowdrills(อุปกรณ์ที่เห็นในรูป) ของช่างไม้ ได้รับพบว่าถูกนำมาใช้โดยชาวอียิปต์โบราณ คันธนูกว้างมากที่ปลายด้านหนึ่งเพื่อให้มือจับ และแท่งเจาะถูกสร้างขึ้นจากไม้ ปลายสุดของแท่งด้านหนึ่งมีลักษณะเป็นหัวขัด ใช้วัสดุเป็นไม้หรือหินแข็งและมีหลุมในปลายด้านหนึ่งสำหรับเสียบแท่งเจาะนั้นเอง
ทองแดง หรือทองเหลืองจะไม่เพียงพอในแง่ของความแข็ง ที่จะนำมาใช้เป็นส่วนหัวที่จะมาติดที่ปลายแท่งขัด เพื่อขัดหินบะซอล หินแกรนิต หินกระดานชนวน และหินทราย ต้องใช้วัสดุที่มีความแข็งกว่าหินพวกนี้ในการขัดและตัดพวกมัน
a) ภาพวาดโบราณของชาวอียิปต์ที่แสดงการใช้เครื่องมือคันธนูในงานเจาะ
b) การใช้เครื่องมือคันธนูในงานผลิตลูกปัด สำหรับสร้อยคอ และตกแต่งหลุมศพ
นักโบราณคดี และนักวิชาการได้สันนิฐานถึงขั้นตอนวิธีการเจาะรูไว้ว่า ในขั้นตอนการเจาะรูจะมีทีมงานประมาณ สามคน โดยใส่ทรายแห้งในรูที่เจาะด้วยเพื่อเป็นตัวขัด คนงานสองคนประจำที่คันธนูที่ปลายทั้งสองและคนที่สามจะคอยจับตัวหัวขัดที่ปลายแท่งขัดไว้ จำนวนรอบหมุนของการเจาะด้วยคันธนูมีการหมุนถึง 120 รอบ/นาที (60 รอบ ตามเข็มนาฬิกาและทวนเข็มนาฬิกา 60 รอบ) มีแรงประมาณ 1kg/cm2 ที่ปลายแท่งเจาะ ขณะเจาะ
ในระหว่างที่เจาะจำเป็นต้องใส่ทราย(quartz sand) เพื่อเป็นตัวกัด และขัดในการเจาะ จุดที่ยากในขั้นตอนการเจาะก็คือการพยามรักษาการเจาะตรงตั้งฉากที่สุด รวมถึงการหมุนอย่างสม่ำเสมอ เพราะมิฉะนั้น รูที่ได้จะไม่ตรงเป็นทรงกระบอก จะกลายเป็นรูกรวยไป
ทรายแห้งขัด (ควอทซ์) ที่ถูกเพิ่มเข้ามาที่ในหลุม และไหลลงไปยังพื้นผิวการตัดที่จุดปลายของแท่งขัด หากใช้ทรายเปียก จะทำให้การเจาะยากขึ้นกว่าที่ทรายแห้ง เมื่อการเจาะได้เสร็จสิ้นลง พวกเขาจะหักแท่งก้อนแกนกลางออก โดยใช้สิ่วเสียบที่ร่องแล้วใช้ฆ้อนตีจนแท่งแกนกลางหัก(เหมือนวิธีการหักก้อนคอริ่งในปัจจุบัน)
นักโบราณคดี มีการนำวิธีนี้มาทดลองใช้เพื่อพิสูจน์พบว่า ใช้เวลากว่า 20ชั่วโมง ในการเจาะรูบนหินแกรนิต ด้วยคันธนูและใส่ทรายแห้ง ได้ความลึกเพียง 6cm บางทีช่างชาวอียิปต์ที่ชำนาญอาจใช้เวลาน้อยกว่านี้ และได้ความลึกที่มากกว่าเนื่องจากมีประสบการณ์ที่สูงกว่านักโบราณคดีนั้นเอง
a) การทำแจกันโดยใช้เครื่องมือเจาะรูอีกลักษณะหนึ่ง
b) ลักษณะเครื่องมือเจาะรูอีกชนิดที่ชาวอียิปต์ใช้
รูปแท่งหินแกรนิตทรงกระบอกที่ถูกคอริ่งออก จากโบราณสถาน Giza
รูบนรูปแกะสลัก ของ diorite gneiss ของราชวงศ์ที่ 4
เคยมีคนถามเกี่ยวกับการเจาะรูบนหินโบราณต่างๆที่แสดงในพิพิธภัณฑ์อียิปต์ในกรุงไคโร แต่ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถอธิบายได้
ไม่เพียงแต่อียิปต์ โบราณสถาณต่างๆทั่วโลกก็พบการเจาะรูบนหินโดยทั่วไป
รูปแรกรูจากโบราณสถาน Puma Punku ที่ประเทศเปรู
รูปสองจากโบราณสถาน Tiahuanaco ประเทศโบลิเวีย
รูปด้านซ้ายเป็นหินอ่อนแกะสลัก จากไอร์แลนด์ที่มีการเจาะรูเช่นกัน วัตถุที่แสดงให้เห็นว่าคนที่ทำมันมีทักษะระดับที่สูงมากของความซับซ้อนทางเทคนิคที่ใช้สร้างงานศิลปะ
นักโบราณคดีโจเซฟเฟนวิคได้ชี้ให้เห็นว่ามีความแม่นยำของการแกะสลัก แทบจะเหมือนการใช้เครื่องมือสมัยใหม่ อย่างกับเครื่องคอริ่ง หรือสว่าน มันเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจว่าวัตถุชิ้นนี้ใช้หลักการเดียวกันกับการเจาะรูสมัยนี้ เพียงแต่มันผ่านมาแล้ว 2,000 ปี
Via :
http://www.ancient-atlantis.com/evidence-of-ancient-high-tech-drilling/
http://www.oocities.org/unforbidden_geology/ancient_egyptian_copper_coring_drills.html
http://hiddenincatours.com/egyptian-core-drill-holes-in-stone-evidence-of-machining-before-the-pharaohs/